เลือก Victoria's Secret และ Bath & Body Works ไม่ถูก เชิญทางนี้ค่ะ
“พี่คะ ช่วยน้องเลือกหน่อยซิคะ อยากได้โลชั่นกลิ่นแบบดอกไม้ หอมแบบผู้หญิงๆ นะค่ะ”
“แม่ค้าจ๋า หนูตามหากลิ่นแบบขนมๆ กลิ่นวานิลลาหอมฟุ้ง น่าจะใช้กลิ่นอะไรดีเอ่ย”
“พี่คะ ช่วยแนะนำหน่อยซิคะ ชอบกลิ่นแบบสะอาดๆ สดชื่นแบบเฟรชๆ นะค่ะ”
"พี่คะ อยากทราบว่าของ Victoria’s Secret กลิ่นไหนขายดีคะ เลือกไม่ถูกเลยค่ะ”
“ Victoria’s Secret กับ Bath & Body Works อันไหนหอมและติดทนกว่ากันคะ”
ฯลฯ
เหล่านี้คือคำถามมากมายที่คุณลูกค้าต่างถามเข้ามากันค่ะ และยิ่งคนที่ยังไม่เคยใช้หรืออาจจะเพิ่งรู้จักครั้งแรกก็อาจจะงงๆ และเลือกไม่ถูกกันแน่เลยใช่มั๊ยคะว่าจะซื้อกลิ่นไหน แบบไหนดีน๊า เพราะผลิตภัณฑ์ของทั้งสองแบรนด์มีหลายกลิ่น และหลายแบบมากๆ เลยค่ะ
.....ที่นี้มีคำตอบจ้า แม่ค้าขอแยกลักษณะกลิ่นต่างๆ ตามนี้ค่ะ เพื่อให้คุณลูกค้าเข้าใจง่ายๆ และสามารถเลือกกลิ่นได้ตรงความชอบและเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละคนมากที่สุดค่ะ
หลักๆ แล้วทั้ง Victoria’s Secret และ Bath & Body Works จะแยกลักษณะกลิ่นความหอมตามนี้ค่ะ
1. Floral : ลักษณะกลิ่นจะเป็นแบบฟรอรัลหรือดอกไม้ สกัดจากเหล่าดอกไม้นานาพรรณ เช่น ดอกลาเวนเดอร์ ดอกกุหลาบ ดอกมะลิ ดอกลิลลี่ ดอกบัว ดอกไม้ตระกูลบร๊อสซั่ม และดอกไม้นานาพรรณต่างๆ มากมายที่ให้ความหอมสดชื่นค่ะ
ยกตัวอย่างเช่น
Victoria's Secret : Love Spell , Such A Flirt , Endless Love , Sheer Love , Secret Charm , Temptation , Love Addict และอีกมากมายค่ะ
Bath & Body Works : Japanese Cherry Blossom , Moonlight Path , Sweet Pea , Pink Chiffon , Caried Away และอีกมากมายค่ะ
2. Fruity : ลักษณะกลิ่นจะเป็นแบบฟรุ้ตตี้ค่ะ คือทำจากผลไม้ ต่างๆ หลากชนิดแล้วแต่ว่าจะเป็นแบบไหน เช่น ส้ม แอปเปิ้ล ราสเบอรี่ ลูกแพร์ สตรอเบอรี่ และหลากชนิดของผลไม้ค่ะ
ยกตัวอย่างเช่น
Victoria's Secret : Pure Seduction , Strawberries & Champagne , Temptation , Pure Daydream , Romanctic และอีกมากมายค่ะ
Bath & Body Works : Country Apple , Peach Bellini , Coconut Vanilla , Hawaii Passionfruit , Cucumber Melon , Mad about you , Winter Candy Apple และอีกมากมายค่ะ
3. Warm ลักษณะกลิ่นจะให้ความรู้สึกอบอุ่น หอมแบบอบอวล มีทั้งทำจากดอกไม้ และกลิ่นแบบแนวขนม เช่น วานิลลา มะพร้าว ขนมเบเกอรี่ ประมาณนี้ค่ะ
ยกตัวอย่างเช่น
Victoria's Secret : Vanilla Lace , Coconut Passion , Amber Romance , Dreamy Vanilla , Pure Seduction Lace
Bath & Body Works : Warm Vanilla Sugar , Coconut Vanilla , Cashmere Glow , Pink Chiffon , Velvet Sugar , Country Chic , Coconut Sunset , Almond & Vanilla
4. Fresh ลักษณะกลิ่นจะให้ความรู้สึกใสๆ เบาๆ สบายๆ หอมแบบสะอาด สดชื่นค่ะ
ยกตัวอย่างเช่น
Victoria's Secret : Aqua Kiss , Secret Charm , Dream , Lemon Escape , Fresh & Clean , Pretty & Pure , Live it up , Rich indulgence และอีกมากมายค่ะ
Bath & Body Works : Sea Island Cotton , White Citrus , Endless Weekend , Twisted Papermint , Lavender & Sandalwoods และอีกมากมายค่ะ
หลักๆ ก็จะแยกตามนี้นะคะ และที่สังเกตง่ายๆ อีกอย่างคือ ให้เดาง่ายๆ เลยว่ากลิ่นแต่ละชนิดจะเป็นยังไง ให้ดูจากแต่ละขวดจะมีชื่อกลิ่นและบอก top notes ของแต่ละกลิ่นบอกอยู่แล้วค่ะ
หมายเหตุ : กลิ่นบางกลิ่นที่กล่าวมาข้างต้นบางกลิ่นอาจเลิกผลิตแล้วนะคะ เพราะแบรนด์จะชอบพัฒนาผลิตภัณฑ์เรื่อยๆ ค่ะ เพื่อให้มีความหอมหลากหลายยิ่งๆ ขึ้นไป เหล่านี้ให้คุณลูกค้าดู Update สินค้าที่มีพร้อมจัดส่งที่หน้าเวปร้าน แม่ค้า Update ตลอดค่ะ ซึ่งแต่ละกลิ่นนั้นแม่ค้าจะเขียนคำอธิบายลักษณะของแต่ละกลิ่นทุกลิ่น เขียนอธิบายโดยละเอียด ซึ่งจะทำให้ลูกค้านึกถึงลักษณะแต่ละกลิ่นได้ และเดากลิ่นไม่ยากค่ะ
และที่ถามว่าระหว่าง Victoria’s Secret และ Bath & Body Works กลิ่นไหนจะหอมและติดทนกว่ามากกว่ากัน ตรงนี้แม่ค้าขอตอบว่า แล้วแต่ความชอบของแต่ละคนเลยค่ะ ว่าจะชื่นชอบและอยากใช้แบรนด์ไหน และอยากได้กลิ่นอะไร เพราะจากที่แม่ค้าขายมาและแม่ค้าก็ใช้เองด้วย แม่ค้าว่าความหอมและติดทนพอๆ กันเลยค่ะ และกับบางคนก็อาจจะเคมีถูกกับแบรนด์นี้มากกว่าอะไรประมาณนี้นะค่ะ หรือไม่ก็อยากจะแนะนำว่าให้ลองใช้ทั้งสองแบรนด์เลยค่ะ แล้วคุณก็จะได้คำตอบว่าในที่สุดแล้วโลชั่นหรือน้ำหอมแบรนด์ไหนน่าจะเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวคุณที่สุดนะค่ะ
เห็นมั๊ยคะ ไม่ยากเลยใช่มั๊ยคะ ในการที่จะเลือกใช้กลิ่นไหนให้ตรงใจคุณ และด้วยแบรนด์ Victoria’s Secret และ Bath & Body Works ที่ดังเลื่องชื่อระดับโลกในเรื่องความหอมที่เป็นเอกลักษณ์และติดทนยาวนาน และยังมีสินค้าหลายกลิ่นให้เลือกสรรตามอารมณ์ ความรู้สึก รับรองเลยค่ะว่าคุณลูกค้าที่ได้ใช้ต้องปลื้มกับความหอมของทั้งสองแบรนด์นี้แน่นอนค่ะ
